สนาม เจ เดวิดสัน สเตเดี้ยม
รายการ เอฟเอ ยูธ คัพ รอบ 4
วัน ศุกร์ที่ 22 มกราคม 2559
ผู้ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สก็อตต์ น.67
ผู้ทำประตูให้เชลซี อั๊กโบ น.20, อับราฮัม น.45, เมาน์ท น.68, ดาซิลวา น.82, อาลี น.87
เส้นทางในศึกเอฟเอ ยูธ คัพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจำต้องยุติลงอีกฤดูกาล หลังจากที่เด็กๆ ปีศาจแดงพ่ายแพ้ต่อแชมป์เก่าอย่างเชลซี 1-5 ในรอบ 5 ที่สนามเจ เดวิดสัน สเตเดี้ยม ของอัลทริงแคม
ทีมเยือนสมควรที่จะได้รับชัยชนะอันถล่มทลายนี้ โดยพวกเขาได้ประตูจาก อิเค อั๊กโบ, แทมมี่ อับราฮัม, เมสัน เมาน์ท, เจย์ ดาซิลวา และ มุคห์ตาร์ อาลี ขณะที่ประตูในนาทีที่ 67 ของ ชาร์ลี สก็อตต์ ช่วยปลุกความหวังให้กับทีมของ พอล แม็คกินเนสส์ ได้ช่วงหนึ่ง เมื่อสกอร์ตีตื้นมาที่ 1-2 แต่สุดท้ายก็เป็นเชลซีที่รัวกระสุนคว้าชัยไปได้แบบสบายเท้า
ทีมสิงห์บลูส์เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม และก็เกือบขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 9 จากการขึ้นเกด้วยความเร็ว ชาร์ลี เวคฟิลด์ ได้บอลทางพื้นที่ว่างฝั่งขวา ก่อนที่จะยิงให้ โอลิเวอร์ เบิร์น นายทวารปีศาจแดงต้องเซฟออกหลัง และแม้ว่าลูกเตะมุมดังกล่าว ลูกทีมของ โจ เอ็ดเวิร์ดส จะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่พวกเขาก็รอไม่นานสำหรับโอกาสถัดไปในครึ่งเวลาที่พวกเขาครองเกมได้ทั้งหมด
อั๊กโบเป็นคนต่อมาที่ได้ยิง ซึ่งบอลก็ไปติดบล็อค และอับราฮัมก็ได้ลุ้นบ้างเช่นกันจากลูกยิงที่หลุดกรอบออกไป มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นคนที่ทำให้แนวรุกเจ้าถิ่นพอจะสร้างความอันตรายได้บ้างด้วยฝีเท้าที่ว่องไว แต่ก็ยังเป็นเชลซีที่ครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง และพวกเขาก็มาเห็นผลจากการกดดันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจนได้
เจย์ ดาซิลวา ได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนที่จะโยนเข้ากลางมาให้อับราฮัมโขกไปติดเซฟเบิร์น แต่ก็โชคร้ายที่ผู้รักษาประตูรายนี้ไม่สามารถรับมือกับจังหวะซ้ำจากอั๊กโบได้ ทำให้ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำไปก่อน
เชลซีพยายามที่จะทำประตูทิ้งห่าง และฟรีคิกจากอับราฮัมก็ทำให้แนวรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปั่นป่วน ฟิโกโย่ โทโมรี่ เอาชนะในการดวลกลางอากาศกับเบิร์น แต่ลูกโขกของเขาก็ข้ามคานออกไป
ทีมปีศาจแดงพยายามที่จะเปิดเกมรุกบ้าง ทั้งที่แนวรับซึ่งนำโดย ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ และ โร-ชอน วิลเลี่ยมส์ กำลังถูกเล่นงานอย่างหนักจากเชลซี แรชฟอร์ด, ชาร์ลี สก็อตต์ และ โทซิน เคฮินเด้ ประสานงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นทีมจากลอนดอนที่มายิงทิ้งห่างในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก จากการยิงสุดเฉียบคมของอับราฮัม
ครึ่งหลังก็ยังเริ่มต้นได้ไม่ดีนักสำหรับทีมของแม็คกินเนสส์ เมื่อ แซ็ค เดิร์นลี่ย์ จำเป็นต้องถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยอาการบาดเจ็บ และแนวรับของเชลซีก็ยังประสานงานกันได้ดี ไม่ปล่อยให้ตัวรุกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้สร้างจังหวะอันตรายได้เลย
ชาร์ลี สก็อตต์ มาสร้างโอกาสลุ้นแบบจริงจังครั้งแรกของเกมให้กับทีมปีศาจแดงก่อนเกมครบชั่วโมงไม่นาน เป็นการจ่ายมาให้โดย คอลลัม กริบบิน แต่มิดฟิลด์ตัวกลางรายนี้ก็ยิงหลุดกรอบออกไปอีก
จากนั้นไม่นาน สก็อตต์ก็ได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะเตะมุมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอลถูกโขกสกัดออกมาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ คราวนี้เขาไม่พลาดด้วยการยิงสวนเข้าประตูไป ถือเป็นการปลุกความหวังให้กับทีมปีศาจแดง ซึ่งก็อาจแค่ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น…
เพียงแค่ 45 นาทีถัดมา งานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กลับมายากเหมือนเดิมอีก เมสัน เมาน์ท ของเชลซีพาบอลลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษของทีมปีศาจแดง แม้ว่าในจังหวะสุดท้ายเขาจะเสียบอล แต่แนวรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่สามารถสกัดบอลออกไปได้ สุดท้ายเมาน์ทจึงได้ยิงซ้ำโล่งๆ เข้าไปให้ทีมสิงห์บลูส์หนีห่าง 2 ประตูเช่นเดิม
หลังจากนั้นก็เป็นเชลซีที่คุมเกมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และก็มาได้ประตูเพิ่มอีกจากการยิงล็อบแบบสุดสวยของ เจย์ ดาซิลวา ต่อด้วยลูกแปโล่งๆ ของ มุคห์ตาร์ อาลี สุดท้ายจึงเป็นทีมแชมป์เก่าที่คว้าชัยชนะผ่านเข้าสู่รอบ 5 โดยที่พวกเขาสามารถทำประตูได้ถึง 11 ลูก จากการเตะ 2 เกม ในรายการนี้
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบิร์น, วาร์เรน, วิลเลี่ยมส์, โฟซู-เมนซาห์, รีด, สก็อตต์, วีแลน, เดิร์นลี่ย์ (บูเน่น น.56), กริบบิน (โกเมส น.85), เคฮินเด้, แรชฟอร์ด
สำรองไม่ได้ใช้งาน มูธา-เซ็บตาอุย, ดันน์, เคนยอน
SiR KeaNo